แพทช์ 2.3 ที่กำลังจะมีการอัปเดตในไม่ช้าของเกม LoL: Wild Rift ทางผู้พัฒนาได้มีการออกมาบอกถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในแพทช์นี้นั่นก็คือการเปลี่ยนแปลงของ Rune และ Key Stone ที่มีทั้งการอัปเกรดและเปลี่ยนใหม่ ซึ่งมีอะไรที่เปลี่ยนบ้างวันนี้เราจะมาสรุปให้ดูกัน

Key Stone

Kleptomancy เปลี่ยนเป็น Phase Rush

มีใครยังจำ Key Stone ที่มีชื่อว่า Kleptomancy ได้บ้าง? แทบไม่ได้ใช้กันเลยใช่ไหมล่ะ Kleptomancy มีคุณสมบัติ หลังจากใช้สกิลหากการโจมตีด้วยสกิลต่อไปแล้วโดนแชมเปี้ยนฝ่ายตรงข้าม จะได้รับเอฟเฟกต์ไอเทมแบบสุ่ม ซึ่งชาวไวด์ลิฟต์ต่างก็ถามกันว่าแล้วประโยชน์มันอยู่ที่ไหน? ซึ่งทาง Riot ก็เล็งเห็นถึงปัญหานี้เช่นกันพวกเขาจึงได้นำ Key Stone ตัวใหม่เข้ามาแทนนั่นก็คือ Phase Rush

Phase Rush เป็นรูนจาก LoL เวอร์ชัน PC ที่ให้ความเร็วเคลื่อนที่และต้านทานสโลว์ชั่วขณะ หลังจากสร้างความเสียหายแก่แชมเปี้ยนศัตรูทุก ๆ สามครั้ง เหมาะสำหรับแชมป์เปี้ยนที่ต้องการวิ่งไล่และวิ่งหนีอีกฝ่าย


รีเวิร์ค Font of Life 

จากแต่ก่อนที่จะต้องใช้สกิลที่มี CC ใส่ฝ่ายตรงข้ามเท่านั้นถึงจะมีสัญลักษณ์และฮีลเฉพาะเพื่อนร่วมทีมที่โจมตีใส่ฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น หลังจากการอัปเดตสัญลักษณ์ Font of Life จะขึ้นเมื่อทำการโจมตีหรือสกิลใส่ฝ่ายตรงข้าม เมื่อเราหรือเพื่อนร่วมทีมทำการโจมตีใส่ฝ่ายตรงข้ามที่มีสัญลักษณ์จะได้รับการฮีล สามารถได้รับ 1 ครั้งต่อ 1 สัญลักษณ์

ซึ่งทาง Riot ก็ได้ให้เหตุผลถึงการรีเวิร์ค Font of Life ว่า Rune ตัวนี้มีการทำงานที่ค่อนข้างแคบและไม่ค่อยคุ้มที่จะหยิบมาใช้ พวกเขาจึงอยากจะปรับมันเพื่อให้แชมป์เปี้ยนหลายตัวสามารถเอา Rune นี้ไปใช้ได้คุ้มค่ามากขึ้น


Rune

เปลี่ยน Resolve ให้มีประโยชน์มากขึ้น

Backbone ถูกแทนที่ด้วย Bone Plating

คุณสมบัติของ Bone Plating นั้นจะทำให้หลังจากได้รับความเสียหายจากการโจมตีหรือสกิลของแชมป์เปี้ยน 3 ครั้ง การโจมตีหลังจากนั้นของฝ่ายตรงข้ามแชมป์เปี้ยนของเราจะได้รับความเสียหายน้อยลง เหตุผลที่นำ Backbone ออกนั้นทาง Riot ได้บอกว่า Backbone เป็น Rune ที่ให้ค่าสถานะที่เราไม่ต้องการ เช่น เรายืนเลนเจอกับตัวที่ใช้ ATK เป็นหลัก และเราซื้อเกราะเพื่อไปเจอกับมัน เจ้า Backbone ก็จะให้ค่าสถานะต้านทานเวทซึ่งไม่จำเป็นเลยสักนิดเดียว

Regeneration ถูกแทนที่ด้วย Second Wind

คุณสมบัติของ Second Wind นั้นจะทำให้เราได้รับอัตราการฟื้นฟูพลังชีวิตเพิ่มขึ้นและหลังจากที่คุณได้รับความเสียหายจากแชมเปี้ยนศัตรู จะได้รับผลฮีลเท่ากับส่วนหนึ่งของพลังชีวิตที่หายไป ซึ่งเอฟเฟกต์นี้จะมีผลสองเท่าสำหรับแชมเปี้ยนที่โจมตีระยะประชิด

Spirit Walker ถูกแทนที่ด้วย Adaptive Carapace

คุณสมบัติของ Adaptive Carapace นั้นจะทำให้เราได้รับโบนัสพลังชีวิตสูงสุด และจะได้รับพลังป้องกันเพิ่มขึ้นเมื่อพลังชีวิตเหลือต่ำกว่า 50% การที่เอา Spirit Walker ออกนั้นเป็นเพราะว่าเอฟเฟกต์ของมันดูไม่ค่อยจะเห็นผลเท่าที่ควรและมักถูกเลือกเอามาใช้แค่เพราะมันเพิ่มพลังชีวิตให้เท่านั้น การที่เอา Adaptive Carapace มาแทนดูเหมือนจะตอบโจทย์เหล่าซัมมอนเนอร์มากกว่า


Buff

Conditioning

ก่อน: ได้รับโบนัสเกราะและต้านทานเวท 8 หน่วยหลังจากเริ่มเกมไปแล้ว 5 นาที

หลัง: ได้รับโบนัสเกราะและต้านทานเวท 8 หน่วยหลังจากเริ่มเกมไปแล้ว 5 นาที ทุก ๆ 2 นาที หลังจากนั้นจะได้รับโบนัสเกราะและต้านทานเวท 2 หน่วย

Sweet Tooth

ก่อน: เพิ่มเอฟเฟกต์การฮีลของ Honeyfruit และ Honeyfruit แต่ละผลจะมอบโบนัสทองให้ด้วย

หลัง: เพิ่มเอฟเฟกต์การฮีลของ Honeyfruit และ Honeyfruit แต่ละผลจะมอบโบนัสทองเมื่อเราหรือเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ใกล้เคียงกิน Honeyfruit


Nerf

Mastermind

ก่อน: สร้างโบนัสความเสียหายจริง 10% แก่สัตว์ในตำนานและป้อมปราการ ได้รับ 100 ทอง และ 500 XP เพิ่ม เมื่อได้กำจัดหรือช่วยกำจัดสิ่งเหล่านี้

หลัง: สร้างโบนัสความเสียหายจริง 10% แก่สัตว์ในตำนานและโบนัสความเสียหาย 10% (แปรเปลี่ยน) แก่ป้อมปราการ ได้รับ 120 ทองเมื่อได้กำจัดหรือช่วยกำจัดสิ่งเหล่านี้

 

Comments

comments